การประกาศตัวแปรนั้นสามารถกระทำได้โดย
โครงสร้าง
DataType variableName[,variableName];
หรือ
ชนิดของข้อมูล ตัวแปร;
ตัวอย่าง การประกาศตัวแปรแบบ Integer
int a;//ประการตัวแปร a เป็นข้อมูลแบบจำนวนเต็ม(Integer)
ในกรณีที่มีตัวแปรมากกว่าหนึ่งตัวให้ใช้เครื่องหมาย(,)คั่นดังนี้
int a,b;//ประการตัวแปร a,b เป็นข้อมูลแบบจำนวนเต็ม(Integer)
ตัวอย่าง การประกาศตัวแปรแบบ Character
Char a;
unsigned Char c;=
ตัวอย่างโปรแกรม
public class TestType{
public static void main(String[] args){
int a=6;
char sex='M';
System.out.pirntIN("Type a ="+a);
System.out.printIN("Type sex = "+sex);
}
}
ผลการรันโปรแกรม
Type a=6
Type sex = M
สามารถดู code เพิ่มเติ่มได้ที่นี้
วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
คำสั่งแสดงข้อความ
คำสั่งที่ใช้ในการแสดงขอความของภาษาจาวา
รูปแบบ
System.out.printIn("----ข้อความที่จะแสดง----");
ข้อสำคัญเมื่อจบคำสั่งแต่ละคำสั่งต้องตามด้วยเครื่องหมาย(;)เสมอ
ตัวอย่างเช่น
public class testprint{
public static void main(String[] args){
System.out.printIn("ทดสอบคำสั่งแสดงผล");
}
}
ผลการรันโปรแกรม
ทดสอบคำสั่งแสดงผล
ถ้าเราต้องการให้ข้อความสองข้อความมาต่อกันทำได้โดย
ใช้คำสั่ง System.out.print("-------");
ข้อสำคัญเมื่อจบคำสั่งแต่ละคำสั่งต้องตามด้วยเครื่องหมาม(;)เสมอ
ตัวอย่างเช่น
public class testprint{
public static void main(String[] args){
System.out.print("ทดสอบคำสั่งแสดงผล");
System.out.print("โดยใช้คำสั่งprint");
}
}
ผลการรันโปรแกรม
ทดสอบคำสั่งแสดงผลโดยการใช้คำสั่งprint
รูปแบบ
System.out.printIn("----ข้อความที่จะแสดง----");
ข้อสำคัญเมื่อจบคำสั่งแต่ละคำสั่งต้องตามด้วยเครื่องหมาย(;)เสมอ
ตัวอย่างเช่น
public class testprint{
public static void main(String[] args){
System.out.printIn("ทดสอบคำสั่งแสดงผล");
}
}
ผลการรันโปรแกรม
ทดสอบคำสั่งแสดงผล
ถ้าเราต้องการให้ข้อความสองข้อความมาต่อกันทำได้โดย
ใช้คำสั่ง System.out.print("-------");
ข้อสำคัญเมื่อจบคำสั่งแต่ละคำสั่งต้องตามด้วยเครื่องหมาม(;)เสมอ
ตัวอย่างเช่น
public class testprint{
public static void main(String[] args){
System.out.print("ทดสอบคำสั่งแสดงผล");
System.out.print("โดยใช้คำสั่งprint");
}
}
ผลการรันโปรแกรม
ทดสอบคำสั่งแสดงผลโดยการใช้คำสั่งprint
วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
โครงสร้างภาษาจาวา
การเขียนโปรแกรมเิชิงวัตถุ โปรแกรมจะเิริ่มด้วยการสร้างคลาสขึ้นมาก่อน
โดยชื่อของคลาสนั้นต้องตรงกับชื่อเดียวของโปรแกรมเท่านั้น
โดยชื่อของคลาสนั้นต้องตรงกับชื่อเดียวของโปรแกรมเท่านั้น
รูปแบบโครงสร้าง สมมุติว่าตั้งชื่อคลาสว่า TESTClass
public Class TESTClass {//ส่วนของ Class
public static void main (String[] args){ //Mathod หลัก
...........Body..................
}
}
การแปลภาษา
เป็นกระบวนการแปลภาษาเขียนให้เป็นภาษาเครื่องการแปลภาษามีด้วยกัน 2 แบบคือ
1.Compiler คือ     คอมไพเลอร์จะทำการอ่านโปรแกรมทั้งหมดก่อนเมื่อเจอข้อผิดพลาดก็จะแจ้ง
ให้มีการแก้ไขหรือถ้าไม่พบข้อผิดพลาดกก็จะแปลให้เป็นโปรแกรมที่สามารถ
นำ้ไปใช้งานจะได้ไฟล์ที่มีนามสกุล(*.exe)
2.Interpreter คือ จะทำการอ่านโปรแกรมมาทีละบรรทัดเมื่อพบข้อผิดพลาดก็ทำการแก้ไขบรรทัด
นั้นแล้วทำการอ่านบรรทัดต่อไปทำงานนี้ไปเรื่อยๆจะหมดโปรแกรม
1.Compiler คือ     คอมไพเลอร์จะทำการอ่านโปรแกรมทั้งหมดก่อนเมื่อเจอข้อผิดพลาดก็จะแจ้ง
ให้มีการแก้ไขหรือถ้าไม่พบข้อผิดพลาดกก็จะแปลให้เป็นโปรแกรมที่สามารถ
นำ้ไปใช้งานจะได้ไฟล์ที่มีนามสกุล(*.exe)
2.Interpreter คือ จะทำการอ่านโปรแกรมมาทีละบรรทัดเมื่อพบข้อผิดพลาดก็ทำการแก้ไขบรรทัด
นั้นแล้วทำการอ่านบรรทัดต่อไปทำงานนี้ไปเรื่อยๆจะหมดโปรแกรม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)