วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

การประกาศตัวแบบในภาษาจาวา

การประกาศตัวแปรนั้นสามารถกระทำได้โดย
   โครงสร้าง
      DataType variableName[,variableName];
     หรือ
     ชนิดของข้อมูล ตัวแปร;
ตัวอย่าง การประกาศตัวแปรแบบ Integer
  int a;//ประการตัวแปร a เป็นข้อมูลแบบจำนวนเต็ม(Integer)
  ในกรณีที่มีตัวแปรมากกว่าหนึ่งตัวให้ใช้เครื่องหมาย(,)คั่นดังนี้
  int a,b;//ประการตัวแปร a,b เป็นข้อมูลแบบจำนวนเต็ม(Integer)
ตัวอย่าง การประกาศตัวแปรแบบ Character
   Char a;
   unsigned Char c;=
ตัวอย่างโปรแกรม
public class TestType{
   public static void main(String[] args){
    int a=6;
    char sex='M';
    System.out.pirntIN("Type a ="+a);
    System.out.printIN("Type sex = "+sex);
}
}
ผลการรันโปรแกรม
  Type a=6
  Type sex = M
สามารถดู code เพิ่มเติ่มได้ที่นี้

คำสั่งแสดงข้อความ

คำสั่งที่ใช้ในการแสดงขอความของภาษาจาวา
รูปแบบ
System.out.printIn("----ข้อความที่จะแสดง----");
ข้อสำคัญเมื่อจบคำสั่งแต่ละคำสั่งต้องตามด้วยเครื่องหมาย(;)เสมอ
ตัวอย่างเช่น
public class testprint{
   public static void main(String[] args){
     System.out.printIn("ทดสอบคำสั่งแสดงผล");

}
}
ผลการรันโปรแกรม
   ทดสอบคำสั่งแสดงผล

ถ้าเราต้องการให้ข้อความสองข้อความมาต่อกันทำได้โดย
ใช้คำสั่ง System.out.print("-------");
ข้อสำคัญเมื่อจบคำสั่งแต่ละคำสั่งต้องตามด้วยเครื่องหมาม(;)เสมอ
ตัวอย่างเช่น
public class testprint{
   public static void main(String[] args){
     System.out.print("ทดสอบคำสั่งแสดงผล");
      System.out.print("โดยใช้คำสั่งprint");
}
}
ผลการรันโปรแกรม
   ทดสอบคำสั่งแสดงผลโดยการใช้คำสั่งprint

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

โครงสร้างภาษาจาวา

   การเขียนโปรแกรมเิชิงวัตถุ โปรแกรมจะเิริ่มด้วยการสร้างคลาสขึ้นมาก่อน
โดยชื่อของคลาสนั้นต้องตรงกับชื่อเดียวของโปรแกรมเท่านั้น


รูปแบบโครงสร้าง สมมุติว่าตั้งชื่อคลาสว่า TESTClass
public Class TESTClass {//ส่วนของ Class
   public static void main (String[] args){ //Mathod หลัก
     ...........Body..................
}
}

....การตั้งชื่อClass หรือชื่อตัวแปร จะต้องไม่ตรงกับคำสงวน......

การแปลภาษา

เป็นกระบวนการแปลภาษาเขียนให้เป็นภาษาเครื่องการแปลภาษามีด้วยกัน 2 แบบคือ
1.Compiler คือ     คอมไพเลอร์จะทำการอ่านโปรแกรมทั้งหมดก่อนเมื่อเจอข้อผิดพลาดก็จะแจ้ง
ให้มีการแก้ไขหรือถ้าไม่พบข้อผิดพลาดกก็จะแปลให้เป็นโปรแกรมที่สามารถ
นำ้ไปใช้งานจะได้ไฟล์ที่มีนามสกุล(*.exe)
2.Interpreter คือ    จะทำการอ่านโปรแกรมมาทีละบรรทัดเมื่อพบข้อผิดพลาดก็ทำการแก้ไขบรรทัด
นั้นแล้วทำการอ่านบรรทัดต่อไปทำงานนี้ไปเรื่อยๆจะหมดโปรแกรม